วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ซาลาแมนเดอร์ยักษ์



ซาลาแมนเดอร์ยักษ์  ที่ประเทศ จีน (Chinese giant salamander) เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่อาจยาวถึง 1.8 เมตร รูปร่างลักษณะดูแปลกประหลาด เนื่องจากเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ก่อนยุคไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ มีถิ่นอาศัยอยู่เฉพาะในมณฑลกวางสี ประเทศจีนเท่านั้น ชาวจีนเรียกมันว่า "หว่าหว้าหวี่" แปลว่า "ปลาทารก" เนื่องจากเสียงร้องของมันคล้ายเสียงร้องของเด็กทารก ปัจจุบันซาลาแมนเดอร์ยักษ์อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ จำนวนพวกมันลดลงอย่างรวดเร็วจากการล่าที่ผิดกฎหมาย เพื่อนำไปขาย เพราะเนื้อของมันมีราคาสูงถึง100 เหรียญสหรัฐต่อกิโลกรัม 
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยังคงสืบทอดเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน มีลักษณะรูปร่างหัวกลมแบนใหญ่ ลำตัวแบน ตาเล็กมาก ปากกว้างมาก ภายในปากมีฟันขนาดเล็กจำนวนมาก ที่สามารถใช้ขบกัดได้เป็นอย่างดี หางยาวมีแผ่นหนังคล้ายครีบ ขาสั้น 4 ข้าง มีนิ้ว 4 นิ้ว ลำตัวสีน้ำตาลกระหรือดำและสามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อม โดยถือว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์มีชีวิตอีกจำพวกหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บนโลกเป็นเวลากว่า 300 ล้านปีมาแล้ว[2]ขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาวได้ถึงเกือบ 2 เมตร อาศัยอยู่เฉพาะลำธารน้ำที่มีคุณภาพน้ำในเกณฑ์ดี สภาพน้ำไหลแรง มีอุณหภูมิต่ำในป่าดิบทางตอนกลางและตอนใต้ของจีนเท่านั้น เช่น มณฑลส่านซี, มณฑลชิงไห่, มณฑลเสฉวน, มณฑลกวางตุ้ง, มณฑลเจียงซู และมณฑลกวางสี เป็นต้น หากินในเวลากลางคืน กินอาหารจำพวก ปลาและสัตว์มีกระดองชนิดต่าง ๆ โดยปกติแล้วเป็นสัตว์ที่อยู่อย่างสงบ แต่สามารถจะฉกกัดได้อย่างรุนแรงและดุร้ายเมื่อถูกรบกวน
มีฤดูผสมพันธุ์ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน วางไข่ได้ครั้งละ 500 ฟอง โดยที่ตัวผู้เป็นผู้ดูแล ไข่มีใช้เวลาฟักประมาณ 50-60 วัน และมีอายุยืนได้ถึง 30 ปี
สาระน่ารู้  สมาคม สัตววิทยาแห่งกรุงลอนดอน (Zoological Society of London-ZSL) จัดอันดับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (Amphibians) ที่มีลักษณะประหลาดและกำลังถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดจำนวน 10 สปีชีส์เพื่อการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน สัตว์ป่าที่มี วิวัฒนาการแตกต่างจากสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ และกำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดกำลังได้รับการอนุรักษ์อย่างเป็น ระบบภายใต้โครงการ EDGE (Evolutionarily Distinct and Globally Endangered) ของสมาคมสัตววิทยาแห่งกรุงลอนดอน นักวิจัยของ ZSL จะทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์เจ้าของพื้นที่ในการปกป้องสัตว์ป่าลักษณะดังกล่าวที่ถูกขึ้นบัญชีไว้แล้วจำนวน 564 สปีชีส์ ซึ่งในแต่ละปี ZSL จะขึ้นบัญชีสัตว์ป่าที่ต้องอนุรักษ์ไว้ 100 สปีชีส์และจะจัดอันดับสัตว์ป่าที่ต้องอนุรักษ์อย่างเร่งด่วนไว้จำนวน 10 สปีซีส์ โดยในปี 2007 สมาคมสัตววิทยาแห่งกรุงลอนดอนได้จัดอันดับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ ต้องอนุรักษ์อย่างเร่งด่วนจำนวน 10 สปีชีส์ อาทิ โลมาแม่น้ำแยงซี อูฐสองโหนก และฮิปโปโปเตมัสแคระ เป็นต้น ปี 2008 เป็นปีของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มาดูกันว่า 10 อันดับของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำหรือสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีตัวอะไรบ้าง



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น